กฎของการทดลองเอง ได้คำตอบดีกว่ามาเรียนรู้จากทฤษฏี

อย่าพึ่งปักใจเชื่อ

ในแง่ของศาสตร์ศิลปะการทำ SEO นั้น เราต้องเข้าใจว่าส่วนใหญ่ผู้สอนก็จะใช้จิตวิทยาหรือความเป็นไปได้นำมาสอนผู้เรียน เป็นเพราะแต่ละเว็บเสิร์จเอ็นจิ้นไม่ได้มาบอกข้อมูลความลับต่างๆเกี่ยวกับปัจจัยในการจัดอันดับเว็บไซต์ของแต่ละผู้ให้บริการ เมื่อเป็นแบบนี้จึงทำให้นักสอนเอสอีโอหลายคนมีความคิดมโนกันเยอะซึ่งจะแบ่งได้สองกลุ่มหลักๆ

กลุ่มแรกนั่นก็คือคนที่เสาะหาความรู้จากเว็บไซต์ต่างประเทศหรือในประเทศบ้านเราก็ตามแล้วเอามาประมวลผลในความคิดของตัวเอง โดยใช้มุมมองส่วนตัวว่าอะไรที่มันตรงกับความคิดของเรามากที่สุด เมื่ออันไหนตรงก็เก็บไว้ อันไหนขัดแย้งแต่ความคิดก็ตัดทิ้งไป แล้วนำสิ่งที่เห็นตรงมาถ่ายทอดประสบการณ์ให้กับผู้เรียนเอสอีโอทั้งๆที่ตัวผู้สอนก็ยังไม่ได้ลองทำเลยแม้แต่เว็บเดียว แบบนี้เค้าเรียกว่าการเรียนรู้และเอาความรู้ที่ได้มาบอกต่อโดยที่ยังไม่รู้เลยว่าสิ่งที่นำมาสอนต่อนั้นมันได้ผลในด้านดีหรือด้านลบกันแน่

ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็คือกลุ่มที่มีการทดลองจริง มีการเก็บสถิติจริง มีการเรียนรู้จากประสบการณ์โดยตรง หากเว็บอันดับร่วงก็หาวิธีแก้ เมื่อเว็บอันดับดีมากก็ต้องหาให้ได้ว่าดีเพราะอะไร สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเฉพาะคนที่มีการทดสอบด้วยตัวเองเท่านั้น และเพื่อให้เราสามารถตอบคำถามที่ค้างคาใจเราได้ว่าวิธีการไหนถึงทำอันดับได้ดีที่สุด มันก็ต้องอยู่ในเรื่องของกฎการทดลองด้วยตัวเอง

เพราะต่อให้คนที่เค้าทำเองแล้วได้ผลมาสอนเรานั้น เราก็ต้องรู้จักเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะเราไม่สามารถพิสูจน์จากคำพูดของผู้สอนคนนั้นแต่ว่าเค้าทำจริงมาหรือไม่ บอกแค่บางข้อหรือปล่าว เพื่อให้ดี เรียนรู้แล้วรับฟังมา สุดท้ายนำมาปฏิบัติทดลอง แล้วคำตอบเกี่ยวกับการเรียนรู้เอสอีโออย่างถูกต้องเราจะสามารถตอบคำถามเหล่านั้นได้ตัวของเราเองจากผลการทดสอบ Website ที่เราลงมือทำเอง